วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ข่าวจากทางราชการส่วนกลาง ประจำวันที่ 17 ธ.ค.55

ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ และสหภาพยุโรป จัดเวทีผู้หญิง "สิทธิบทบาทในกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้" เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในประเด็นสิทธิและบทบาทสตรีในกระบวนการสันติภาพ
                ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ และสหภาพยุโรป จัดเวทีผู้หญิง "สิทธิบทบาทในกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้" เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในประเด็นสิทธิและบทบาทสตรีในกระบวนการสันติภาพศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ และสหภาพยุโรป จัดเวทีผู้หญิง "สิทธิบทบาทในกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้" ที่โรงแรมเอเชีย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในประเด็นสิทธิและบทบาทสตรีในกระบวนการสันติภาพ สร้างโอกาสให้ผู้หญิงได้สื่อสารและสะท้อนถึงสถานการณ์ กระบวนการสันติภาพจากมุมมองของผู้หญิง โดยภายในงานมีการเสวนาเรื่อง "ผู้หญิง สิทธิ และบทบาทในกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้" ปาฐกถาพิเศษ "กองทุนสตรี กับการส่งเสริมบทบาทผู้หญิงในกระบวนการสันติภาพ" โดยนางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและการเปิดตัว "เสียงของความหวัง เรื่องเล่าของผู้หญิงเพื่อกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้ " ทั้งนี้ มีผู้ร่วมงานจากตัวแทนภาครัฐบาล องค์กรประชาคม องค์กรพัฒนาเอกชน นักวิชาการ และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมประมาณ 150 คน
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
นาซ่าออกประกาศไม่มีวันสิ้นโลก
          องค์การอวกาศสหรัฐเอมริกาทนไม่ไหว ต้องออกแถลงการบอกกันตรง ๆ ว่า คำพยากรณ์วันสิ้นโลกในวันที่ 21 เดือนนี้ ปีนี้ ไม่มีอยู่จริง แถลงการเขียนโดยนักวิทยาศาสตร์อาวุโส ดอน เยียวแมน กล่าวว่า คำทำนายว่า วันสิ้นโลก หรือเหตุการณ์ผลิกผันในวันที่ 21 เดือนนี้ ปีนี้ เป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ ในรอบศตวรรษที่ผ่านไปนี้เคยมีคำทำนายที่ไม่ถูกต้องมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ท่านผู้มีวิจารณญาณควรจะสำนึกไว้ว่า คาร์ล ซากัง เคยเตือนไว้หลายปีแล้วว่า คำอวดอ้างที่แปลกประหลาด ก็ควรจะมีหลักฐานที่เลิศเลอพอกันอยู่ด้วย                แถลงการณ์ซึ่งออกทางเว็บไซต์อกองค์การ กล่าวว่า ขอรับรองว่า ไม่มีเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์ที่น่าหวั่นหวาดในปีหน้านี้แต่ประการใด แล้วลงท้ายว่าผู้ที่อวดอ้างว่าจะเกิดความพินาศใด ๆ ขึ้นในปีหน้านี้ก็ควรจะแสดงหลักฐานขึ้นมาให้เห็นด้วย ให้เห็นว่าหลักฐานเป็นอะไร แต่ก็ไม่เห็นมีสักอย่าง

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุ การแก้ไขรัฐธรรมนูญน่าจะได้ข้อสรุปเบื้องต้นและนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้หลังปีใหม่ พร้อมยืนยันไม่ใช่แก้ไขเพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
                นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในรายการฟันธง ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ในหัวข้อ ถอยประชามติ รัฐบาลไม่มั่นใจใช่หรือไม่ ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ คณะทำงานอาจจะปรับกระบวนการสานเสวนาที่จะให้นักวิชาการอิสระเป็นกลางเข้ามาดำเนินการ เป็นการการทำความเข้าใจเรื่องประชามติให้ประชาชนทราบ จะได้เข้าใจว่าสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยเฉพาะ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลทำเพื่อประชาชนทั้งประเทศ เพราะเห็นว่ารัฐธรรมนูญปัจจุบันใช้มาแล้ว 6 ปี มีข้อบกพร่องหลายอย่าง อีกทั้งยังมีที่มาจากการรัฐประหารของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ซึ่งไม่เป็นประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามคาดว่า คณะทำงานจะพิจารณารายละเอียดการทำประชามติอย่างรอบคอบแล้ว จะสามารถเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้งช่วงหลังปีใหม่ จากนั้นจึงจะนำไปหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง และรัฐสภาอีกครั้ง
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยการประชุมคณะรัฐมนตรียังไม่มีมติการทำประชาเสวนา หรือใช้การทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ย้ำต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมหาทางออก
                นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยย้ำว่า ที่ประชุมยังไม่ได้มีมติว่า จะมีการทำประชาเสวนา หรือการทำประชามติก่อนลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 เนื่องจากมีขั้นตอนและรายละเอียดค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงอยู่ระหว่างการหารือ เพราะตามกระบวนการรัฐบาลคือหนึ่งในกลไกที่ประสานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎร รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา ที่ต้องหารือร่วมกัน ในส่วนของคณะรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่ได้ติดขัดเพราะจุดยืนของรัฐบาล ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น เบื้องต้นได้มอบหมายให้ นายสุรพงษ์ โตวิจักรชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดูแลแทนชั่วคราว
                นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ได้กำชับการทำงานอย่างบูรณาการและจัดส่งเจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นเป้าหมาย เช่น ครู และเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเน้นย้ำการบริหารเวลาการจัดเส้นทางและกำลังพลให้มีความสอดคล้องกัน
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
 กระทรวงกลาโหม เชิญชวนประชาชนร่วมซื้อไปรษณียบัตรโครงการ สวัสดีปีใหม่ ร้อยใจไทย แด่ผู้เสียสละ เพื่อส่งมอบเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหาร-ตำรวจ ที่เสียสละปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนทั่วประเทศ และเพื่อนำรายได้ไปจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลทหารผ่านศึก
พลโทชำนาญ สุวรรณฉวี ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า โครงการ สวัสดีปีใหม่ ร้อยใจไทย แด่ผู้เสียสละ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีแนวคิดเพื่อส่งขวัญกำลังใจจากแนวหลังไปถึงผู้เสียสละที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนทั่วประเทศ ทั้งตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่พลเรือน อีกทั้งเป็นการน้อมนำแนวพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องความเมตตาและปรารถนาดีต่อกัน เป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้เกิดความพร้อมเพรียงเพื่อชาติบ้านเมือง โดยได้จัดทำไปรษณียบัตรอวยพรปีใหม่ 2556 จำนวน 5 ล้านใบ และเปิดให้ประชาชนร่วมซื้อ เขียนคำอวยพรและความปรารถนาดีไปถึงผู้เสียสละในราคาแผ่นละ 10 บาท รายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลทหารผ่านศึก และส่วนหนึ่งนำไปมอบบำรุงขวัญกำลังใจแก่ผู้เสียสละ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมซื้อไปรษณียบัตรได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์กว่า 1,200 แห่ง และร้านเซเว่น อีเลฟเว่น 6,500 แห่งทั่วประเทศ โดยจะจับรางวัลมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ซึ่งจะจับรางวัลครั้งแรก วันที่ 28 ธันวาคม 2555 /ครั้งที่ 2 วันที่ 15 มกราคม 2556และครั้งที่ 3 วันทหารผ่านศึกในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2556
 //////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

พงศ์เทพ เด้งรับคำขวัญวันเด็ก เตรียมปรับปรุงระบบการศึกษาไทยเตรียมเข้าสู่ประตูอาเซียน
                นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงคำขวัญวันเด็กประจำปี 2556 ที่นายกรัฐมนตรีให้กับเด็กๆ มีใจความว่า รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียนว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการจัดระบบรองรับเรื่องนี้บางส่วนแล้ว โดยเฉพาะการนำพาไทยสู่อาเซียน เช่นการจัดหลักสูตรและโครงการต่างๆ การทำความเข้าใจว่าเมื่อมีการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว คนไทยจะต้องมีการปรับตัวอย่างไร และจะมีผลกระทบอย่างไร รวมทั้งเราจะใช้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ ซึ่งต้องมีการเตรียมความพร้อม ซึ่งทางสถาบันการศึกษาได้เตรียมการไว้แล้ว
                ส่วนภาษาอังกฤษที่ประเทศไทยยังด้อยอยู่นั้น นายพงศ์เทพ กล่าวยอมรับว่าไทยยังเป็นรองบ๊วยอยู่ แต่ก็พยายามปรับปรุง เพราะความจริงคนไทยเรียนภาษาแบบเน้นการอ่าน ไวยากรณ์มากไป ไม่ได้เน้นการฟัง และการพูด ซึ่งปกติต้องเริ่มจากการเรียนการพูดก่อน ซึ่งก็กำลังพยายามปรับระบบกันอยู่
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป