สสว.จับมือวิทยาลัยพาณิชยนาวีนานาชาติเสริมความรู้ด้านการต่อเรือให้ผู้ประกอบการในภูเก็ต รองรับการเติบโตที่มีสูงปีละเป็นแสนล้าน
วันที่ 29 ก.ค.54 ที่โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนา Focus Group SMEs โครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ SMEs ต้นแบบ และความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนสาขาอู่ต่อเรือ-ซ่อมเรือและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เฉพาะกลุ่มเรือสำราญ ซึ่งทางสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับวิทยาลัยพาณิชยนาวีนานาชาติ จัดขึ้นโดยมีผู้ประกอบการอู่ต่อเรือ ซ่อมเรือและเกี่ยวเนื่องกับเรือเข้าร่วม เพื่อให้สร้างความรู้ความเข้าใจถึงธุรกิจต่อเรือ ซ่อมเรือ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องให้ผู้ประกอบการได้รับทราบ
นางสุทธิการ มาสำราญ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม กล่าวว่า สสว.ได้จัดทำแผนส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งธุรกิจต่อเรือและซ่อมเรือเป็นหนึ่งในธุรกิจใหม่ที่ สสว.ให้ความสำคัญในการส่งเสริม เพราะเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงในแต่ละปี มีการสร้างงานและสร้างรายได้และมีอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องจำนวนมากมาย ทาง สสว.จึงต้องการที่จะให้ผุ้ประกอบการต่อเรือรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับการต่อเรือ
ด้าน พล.ร.อ.สุพิทย์ อำนวย คณบดีวิทยาลัยพาณิชยนาวีนานาชาติ กล่าวว่า ธุรกิจต่อเรือสำราญมีมูลค่าสูง เพราะผู้ที่ต้องการเรือสำราญไม่คำนึงถึงราคาของตัวเรือขึ้นอยู่กับพึงพอใจของรูปแบบ อุปกรณ์ต่างๆ ภายในเรือ ซึ่งแต่ละลำมีมูลค่าเป็น 100 ล้านบาท ทำให้มูลค่าอุตสาหกรรมต่อเรือในขณะนี้เติบโตเป็นปีละแสนล้านบาท
ดังนั้น การพัฒนาองค์ความรู้และการพัฒนาฝีมือการต่อเรือสำราญเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก โดยกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาต่อเรือในไทยจะเป็นกลุ่มจากยุโรปที่นิยมมาต่อเรือในพื้นที่ที่มีชายทะเลที่สวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่น ในฝั่งอันดามันเป็นต้น และแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมต่อเรือมีสูงในอนาคต ทางวิทยาลัยฯ จึงได้
วันที่ 29 ก.ค.54 ที่โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนา Focus Group SMEs โครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ SMEs ต้นแบบ และความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนสาขาอู่ต่อเรือ-ซ่อมเรือและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เฉพาะกลุ่มเรือสำราญ ซึ่งทางสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับวิทยาลัยพาณิชยนาวีนานาชาติ จัดขึ้นโดยมีผู้ประกอบการอู่ต่อเรือ ซ่อมเรือและเกี่ยวเนื่องกับเรือเข้าร่วม เพื่อให้สร้างความรู้ความเข้าใจถึงธุรกิจต่อเรือ ซ่อมเรือ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องให้ผู้ประกอบการได้รับทราบ
นางสุทธิการ มาสำราญ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม กล่าวว่า สสว.ได้จัดทำแผนส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งธุรกิจต่อเรือและซ่อมเรือเป็นหนึ่งในธุรกิจใหม่ที่ สสว.ให้ความสำคัญในการส่งเสริม เพราะเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงในแต่ละปี มีการสร้างงานและสร้างรายได้และมีอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องจำนวนมากมาย ทาง สสว.จึงต้องการที่จะให้ผุ้ประกอบการต่อเรือรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับการต่อเรือ
ด้าน พล.ร.อ.สุพิทย์ อำนวย คณบดีวิทยาลัยพาณิชยนาวีนานาชาติ กล่าวว่า ธุรกิจต่อเรือสำราญมีมูลค่าสูง เพราะผู้ที่ต้องการเรือสำราญไม่คำนึงถึงราคาของตัวเรือขึ้นอยู่กับพึงพอใจของรูปแบบ อุปกรณ์ต่างๆ ภายในเรือ ซึ่งแต่ละลำมีมูลค่าเป็น 100 ล้านบาท ทำให้มูลค่าอุตสาหกรรมต่อเรือในขณะนี้เติบโตเป็นปีละแสนล้านบาท
ดังนั้น การพัฒนาองค์ความรู้และการพัฒนาฝีมือการต่อเรือสำราญเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก โดยกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาต่อเรือในไทยจะเป็นกลุ่มจากยุโรปที่นิยมมาต่อเรือในพื้นที่ที่มีชายทะเลที่สวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่น ในฝั่งอันดามันเป็นต้น และแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมต่อเรือมีสูงในอนาคต ทางวิทยาลัยฯ จึงได้
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป