วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

เอกชนภูเก็ตยันเงินเดือน 15,000 บาท เป็นไปได้ยาก กมธ.แรงงาน เตรียมถกวันศุกร์นี้ที่เชียงใหม่

ผู้ประกอบการภูเก็ตเผยค่าจ้างวัน 300 บาท ไม่มีปัญหา ปัจจุบันสูงกว่าอยู่แล้ว แต่ห่วงเงินเดือน 15,000 บาท ยากที่ผู้ประกอบการจะรับเด็กเพิ่งจบเข้าทำงานโดยไม่มีทักษะ ขณะที่กรรมาธิการแรงงาน นำปัญหาถก รมต.ศุกร์นี้ ที่เชียงใหม่
      
       วันที่ 7 ก.ย.54 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมาธิการการแรงงานและสวัสดิการสังคม นำโดย นายขวัญชัย พนมขวัญ รองประธานคนที่ 1 คณะกรรมาธิการการแรงงานและสวัสดิการสังคม และประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาเรื่องสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน วุฒิสภา รับฟังสถานการณ์ด้านแรงงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และพังงา และกระบี่ โดยมี นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับด้านแรงงานทั้ง 3 จังหวัด และภาคเอกชน เข้าร่วมชี้แจง
      
       นายขวัญชัย กล่าวภายหลังการรับฟังข้อมูลสถานการณ์แรงงานในภูเก็ต พังงา และกระบี่ ว่า คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาเรื่องสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน วุฒิสภา ต้องการที่จะมารับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการขาดแคลนแรงงาน วิกฤตแรงงาน และปัญหาแรงานต่างด้าว และภาคเอกชนต้องการที่จะให้ภาครัฐเข้าให้การช่วยเหลืออย่างไรบ้าง
      
       นอกจากนี้ จังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่องในการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท จึงอยากจะมารับฟังถึงความพร้อมของภาคเอกชนและหน่วยงานที่จะดำเนินการ เพื่อที่จะนำข้อมูลทั้งหมดไปหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในเวทีสัมมนาเรื่องแรงงานขั้นต่ำ รายได้ขั้นต่ำ 300 บาท และเงินเดือน 15,000 บาท ซึ่งทางคณะกรรมาธิการแรงงานและสวัสดิการสังคมจัดขึ้นในวันศุกร์ที่จังหวัดเชียงใหม่
      
       อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้น เท่าที่รับฟังจากผู้ประกอบการทำให้ทราบว่าไม่น่าที่จะมีปัญหาในการปรับค่าแรงงานเป็น 300 บาท เพราะรายได้ที่แรงงานได้รับอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวเกินวันละ 300 บาทอยู่แล้ว แต่ในเรื่องของเงินเดือน 15,000 บาทนั้นน่าที่จะมีปัญหาเพราะเอกชนคงจะไม่จ้างแรงงานที่เพิ่งจบใหม่โดยไม่มีทักษะ
      
       แต่จะสามารถเลือกจากคนที่จบระดับ ปวช.หรือ ปวส.ที่ประสบการณ์ในการฝึกทักษะตอนเรียนมากกว่า และค่าจ้างก็ต่ำกว่าด้วย รวมทั้งภาคเอกชนในภูเก็ตยังได้เรียกร้องให้ช่วยกันผลักดันให้ภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อสะดวกในการบริหารจัดการต่อไป
      
       ด้าน นายกฤษฎา ตันสกุล อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า อยากจะให้รัฐบาลมีความชัดเจนเรื่องค่าจ้างวันละ 300 บาท ว่าจริงแล้วเป็นค่าจ้างขั้นต่ำ หรือ เป็นรายได้ขั้นต่ำ รวมทั้งจำนวนวันคิด 26 วัน หรือ 30 วัน ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นค่าจ้าง หรือรายได้ขั้นต่ำวันละ 300 บาท ไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก เพราะรายได้ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวเกินวันละ 300 บาทอยู่แล้ว แต่เป็นห่วงว่าหากจังหวัดอื่นๆ ที่ค่าจ้างยังต่ำอยู่แล้วมีการปรับจนครบ 300 บาท โดยที่ภูเก็ตต้องปรับตามไปด้วยนั้นจะทำให้ค่าจ้างสูงถึงวันละ 400-500 วัน ซึ่งจุดนี้จะเกิดปัญหาอย่างแน่นอน
      
       ส่วนเงินเดือน 15,000 บาทนั้น น่าเป็นห่วงมาก เพราะระบบการศึกษาของไทยผู้ที่จบปริญญาตรีได้มีทักษะพร้อมที่จะเข้ามาทำงานภาคการท่องเที่ยวได้อย่างดี โอกาสที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจะรับเข้าทำงานยากมาก เพราะในภูเก็ตนอกจากจะมีมหาวิทยาลัย 2 แห่งแล้ว ยังสถาบันการศึกษาระดับอาชีวะอีกหลายแห่งที่มีการฝึกทักษะในช่วงการเรียน ซึ่งผู้ประกอบการพร้อมที่จะรับเข้าทำงานอยู่แล้ว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป