8 สถานประกอบการในภูเก็ต ลงนามความร่วมมือกับวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต จัดการการอาชีวศึกษา ระบบทวิภาคีเพื่อพัฒนาการผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ
วันที่ 7 ก.พ.55 ที่ห้องโสต 1 วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต ได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือการจัดการการอาชีวศึกษา ระบบทวิภาคี ระหว่างสถานประกอบการภาคเอกชน 8 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมเบสท์เวสเทิร์นอัลลามันดา ลากูน่า ภูเก็ต, โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา,โรงแรมโบ๊ทลากูน รีสอร์ท, บริษัท เอ็ม เค เรสโตรองค์ จำกัด, โรงแรมเอ้าท์ริกเตอร์ ลากูน่า ภูเก็ต, โรงแรมไอบิส ภูเก็ต, บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท ภูเก็ต กับวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต โดยมี นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธี และคณะผู้บริหารสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดภูเก็ต คณะครู แขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วม
นายสุนทร พลรงค์ ผู้อำนวยวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต กล่าวถึงการลงนามความร่วมมือการจัดการการอาชีวศึกษา ว่า การจัดการศึกษาระดับอาชีวศึกษาในระบบโรงเรียน ดำเนินมากว่า 70 ปี เริ่มจากโรงเรียนหรือสถานศึกษา อบรมสั่งสอนนักเรียน นักศึกษาประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม เกษตรกรรม ศิลปกรรม และ คหกรรม เพื่อออกไปประกอบอาชีพต่างๆ โดยสถานประกอบการเป็นฝ่ายนำนักเรียนนักศึกษาไปใช้งาน
แต่ปัจจุบัน พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษาได้กำหนดให้สถานศึกษาจัดการศึกษาร่วมกับสถาน ประกอบการ เพื่อให้สมารถผลิตกำลังคน ด้านอาชีวศึกษาได้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานโดยแท้จริง ซึ่งการจัดการอาชีวศึกษา ระบบทวิภาคี ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่แก้ปัญหาการผลิตและการพัฒนากำลังคนของประเทศ ทั้งในเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพได้วิทยาลัยอาชีวศึกษา จึงได้ประสานความร่วมมือกับสถานประกอบการต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อร่วมมือจัดการอาชีวศึกษา ระบบทวิภาคีมาโดยตลอด ปัจจุบันมีสถานประกอบการจำนวนมากร่วมมือกับวิทยาลัยฯในการจัดการการ อาชีวศึกษาภูเก็ต
และการร่วมมือจัดการศึกษาที่ร่วมลงนามความร่วมมือในวันนี้ มีสถานประกอบการทั้ง 8 แห่งแสดงเจตจำนงที่จะประสานความร่วมมือ ผนึกกำลังส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการการอาชีวศึกษา และผลิตบุคลากรด้านวิชาชีพร่วมกับวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ตจึงได้จัดให้มี พิธีลงนามตกลงความร่วมมือในวันนี้
ขณะที่ นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การที่ทั้ง 2 ฝ่ายคือสถานศึกษา และสถานประกอบการได้ทำความร่วมมือกันในวันนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่สถานศึกษา ซึ่งมีหน้าที่ฝึกอบรมนักเรียน นักศึกษา ได้ตกลงลงนามความร่วมมือกับฝ่ายสถานประกอบการ ซึ่งเป็นฝ่ายการผลิตขณะนี่สถานประกอบการเป็นฝ่ายที่ต้องนำกำลังคนที่สถาน ศึกษาผลิตไปใช้ โดยความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการทำงานร่วมกันทั้งกระบวนการ ตั้งแต่ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมลงทุน เพื่อแก้ปัญหาการพัฒนากำลังคนของประเทศ ในด้านปริมาณ และคุณภาพได้อย่างถูกต้อง
การผลติและพัฒนากำลังคนโดยเฉพาะระดับฝีมือ ระดับเทคนิคและระดับเทคโนโลยี หรือระดับกลาง ทุกภาคส่วนมีข้อมูลและความเห็นตรงกันว่า สถานศึกษาและสถานประกอบการต้องจัดการศึกษาร่วมกัน วางแผนร่วมกัน เพื่อจะทำให้การผลิตและการพัฒนากำลังคนเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งนี้จะส่งผลดีโดยตรงต่อนักเรียน นักศึกษา ที่จะลดปัญหาการว่างงาน จะส่งผลดีต่อการลงทุน การผลิตที่ซ้ำซ้อน และยังส่งผลต่อภาพรวมของประเทศในด้านศักยภาพการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียนและ เวทีโลก
วันที่ 7 ก.พ.55 ที่ห้องโสต 1 วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต ได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือการจัดการการอาชีวศึกษา ระบบทวิภาคี ระหว่างสถานประกอบการภาคเอกชน 8 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมเบสท์เวสเทิร์นอัลลามันดา ลากูน่า ภูเก็ต, โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา,โรงแรมโบ๊ทลากูน รีสอร์ท, บริษัท เอ็ม เค เรสโตรองค์ จำกัด, โรงแรมเอ้าท์ริกเตอร์ ลากูน่า ภูเก็ต, โรงแรมไอบิส ภูเก็ต, บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท ภูเก็ต กับวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต โดยมี นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธี และคณะผู้บริหารสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดภูเก็ต คณะครู แขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วม
นายสุนทร พลรงค์ ผู้อำนวยวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต กล่าวถึงการลงนามความร่วมมือการจัดการการอาชีวศึกษา ว่า การจัดการศึกษาระดับอาชีวศึกษาในระบบโรงเรียน ดำเนินมากว่า 70 ปี เริ่มจากโรงเรียนหรือสถานศึกษา อบรมสั่งสอนนักเรียน นักศึกษาประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม เกษตรกรรม ศิลปกรรม และ คหกรรม เพื่อออกไปประกอบอาชีพต่างๆ โดยสถานประกอบการเป็นฝ่ายนำนักเรียนนักศึกษาไปใช้งาน
แต่ปัจจุบัน พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษาได้กำหนดให้สถานศึกษาจัดการศึกษาร่วมกับสถาน ประกอบการ เพื่อให้สมารถผลิตกำลังคน ด้านอาชีวศึกษาได้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานโดยแท้จริง ซึ่งการจัดการอาชีวศึกษา ระบบทวิภาคี ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่แก้ปัญหาการผลิตและการพัฒนากำลังคนของประเทศ ทั้งในเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพได้วิทยาลัยอาชีวศึกษา จึงได้ประสานความร่วมมือกับสถานประกอบการต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อร่วมมือจัดการอาชีวศึกษา ระบบทวิภาคีมาโดยตลอด ปัจจุบันมีสถานประกอบการจำนวนมากร่วมมือกับวิทยาลัยฯในการจัดการการ อาชีวศึกษาภูเก็ต
และการร่วมมือจัดการศึกษาที่ร่วมลงนามความร่วมมือในวันนี้ มีสถานประกอบการทั้ง 8 แห่งแสดงเจตจำนงที่จะประสานความร่วมมือ ผนึกกำลังส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการการอาชีวศึกษา และผลิตบุคลากรด้านวิชาชีพร่วมกับวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ตจึงได้จัดให้มี พิธีลงนามตกลงความร่วมมือในวันนี้
ขณะที่ นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การที่ทั้ง 2 ฝ่ายคือสถานศึกษา และสถานประกอบการได้ทำความร่วมมือกันในวันนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่สถานศึกษา ซึ่งมีหน้าที่ฝึกอบรมนักเรียน นักศึกษา ได้ตกลงลงนามความร่วมมือกับฝ่ายสถานประกอบการ ซึ่งเป็นฝ่ายการผลิตขณะนี่สถานประกอบการเป็นฝ่ายที่ต้องนำกำลังคนที่สถาน ศึกษาผลิตไปใช้ โดยความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการทำงานร่วมกันทั้งกระบวนการ ตั้งแต่ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมลงทุน เพื่อแก้ปัญหาการพัฒนากำลังคนของประเทศ ในด้านปริมาณ และคุณภาพได้อย่างถูกต้อง
การผลติและพัฒนากำลังคนโดยเฉพาะระดับฝีมือ ระดับเทคนิคและระดับเทคโนโลยี หรือระดับกลาง ทุกภาคส่วนมีข้อมูลและความเห็นตรงกันว่า สถานศึกษาและสถานประกอบการต้องจัดการศึกษาร่วมกัน วางแผนร่วมกัน เพื่อจะทำให้การผลิตและการพัฒนากำลังคนเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งนี้จะส่งผลดีโดยตรงต่อนักเรียน นักศึกษา ที่จะลดปัญหาการว่างงาน จะส่งผลดีต่อการลงทุน การผลิตที่ซ้ำซ้อน และยังส่งผลต่อภาพรวมของประเทศในด้านศักยภาพการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียนและ เวทีโลก
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป