วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ข่าวจากกรมประชาสัมพันธ์

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผย รัฐบาลให้ความสำคัญดูแลรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่ภาคใต้มากที่สุด

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการมอบนโยบายการจัดการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ โรงแรม ซี เอส ปัตตานี โดยนายพงศ์เทพ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่ โดยได้ปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด นอกจากนี้ ยังประสานฝ่ายปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัย ส่วนเรื่องระบบขวัญกำลังใจครู ที่สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้นำเสนอ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์หน้า ส่วนเรื่องสินเชื่อครูขณะนี้ได้ทำข้อตกลงเบื้องต้นกับธนาคารออมสินเรียบร้อยแล้วเหลือเพียงการตกลงขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งจากมาตรการต่างๆเหล่านี้ เชื่อว่าจะทำให้ครูในพื้นที่เกิดความมั่นใจมากขึ้น
ด้านนายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภายใต้ กล่าวว่า การที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะผู้บริหารเดินทางมายังพื้นที่ ทำให้ครูมีความมั่นใจมากขึ้น แต่อยากเรียกร้องเรื่องให้รักษาความปลอดภัยครูอย่างจริงจัง โดยการให้ชุมชนมีส่วนร่วม และเรื่องขวัญกำลังใจครูในพื้นที่ขอให้สมกับสิ่งที่ครูได้ทุ่มแทให้กับการศึกษา
 --------------------------------------------------------------------------------------------------------
รมว.คลัง เตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หลังขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวันทั่วประเทศ วันที่ 1 ม.ค. 56 นี้

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุปมาตรการ 6มาตรการ ในการเยียวยาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ จากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ใน 70 จังหวัด ตั้งแต่ 1มกราคม 2556 ซึ่งเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2555 ได้หารือร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชน 3 ฝ่าย ในรายละเอียดเบื้องต้นแล้ว และต้องหาข้อสรุปที่ชัดเจนอีกครั้ง
ส่วนนโยบายคืนภาษีสรรพาสามิตรถยนต์คันแรกที่มีประชาชนเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก เชื่อว่า จะไม่กระทบการจัดเก็บภาษีตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากอาจมีประชาชนบางส่วนขายรถยนต์ก่อนระยะเวลาการถือครองที่กำหนดไว้ 1 ปี ขณะที่ มาตรการการลดหย่อนภาษีนิติบุคคล ที่ในปีหน้าจะจัดเก็บเพียงร้อยละ 20 จะช่วยให้รัฐบาลขยายฐานภาษีได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม กรณีค่ายรถยนต์บางค่ายออกรถยนต์รุ่นใหม่ ให้ประชาชนสั่งจองซื้อและระบุว่าเข้าข่ายรับสิทธิ์รถยนต์คันแรก ต้องให้กรมสรรพสามิตเป็นผู้พิจารณา เนื่องจากเป้าหมายหลักของรัฐบาล ในการขยายเวลาให้ประชาชนจองซื้อรถยนต์คันแรก ต้องเป็นรถยนต์ที่เตรียมการผลิตเพื่อส่งมอบไว้แล้ว ส่วนรถยนต์ที่ยังไม่ได้เตรียมการผลิต แต่มีการโฆษณาให้จอง ต้องพิจารณาอีกครั้งว่า เข้าเกณฑ์การรับสิทธิ์คืนเงินหรือไม่
---------------------------------------------------------------------------------------------------
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวางแผน 8 ยุทธการเป้าหมาย ทำเมืองไทยให้เขียวสดใสถวายพ่อหลวง

นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า วันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปีตั้งแต่ปี 2535 ได้มีการกำหนดให้เป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย ตามที่คณะรัฐมนตรีมีความเห็นชอบ สืบเนื่องจากกระแสพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 4 ธันวาคม 2532 ที่ทรงห่วงใยทรัพยากรธรรมชาติภายในประเทศและทั่วโลกที่ประสบกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ขณะเดียวกัน ในปี 2550 ยังกำหนดให้วันที่ 4ธันวาคม เป็น “วันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ” หรือ “วัน ทสม. แห่งชาติ” ด้วย เพื่อเป็นวันสัญลักษณ์ของอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ในการรวมพลังด้วยจิตอาสาในการสร้างคุณความดีพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อมของชาติ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม
นายปรีชา กล่าวอีกว่า เนื่องในวันมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ในกระทรวงทรัพยากรฯว่า ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนดำเนินงานและการตรวจติดตามผลการดำเนินงาน ในด้านต่างๆตามแผนการฟื้นฟู การอนุรักษ์ป่า และดิน การทำฝาย อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ทรัพยากรทางทะเล ให้ถือปฏิบัติงานด้วยความถูกต้อง โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ รวมถึงการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้วย
ทั้งนี้การจัดงานวันสิ่งแวดล้อมไทยในปีได้จัดภายใต้ภายใต้แนวคิด “4 ธันวาคม วันสิ่งแวดล้อมไทย ร่วมทำเมืองไทยให้เขียวสดใสถวายพ่อหลวง : เมืองสวย น้ำใส ไร้มลพิษ เพียงกินอยู่ รู้คิดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ประกอบไปด้วย 8 ยุทธการ 5 เป้าหมาย ร่วมทำเมืองไทยให้เขียวสดใส นำพาให้แนวคิด เมืองสวยน้ำใส ไร้มลพิษ เพียงกิน อยู่ รู้คิด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประสบผลสำเร็จ กล่าวคือ บ้านเมืองมีความสวยงาม มีสีเขียวของต้นไม้ แม่น้ำลำคลองใสสะอาด ปราศจากขยะและสิ่งปฏิกูล อากาศสดชื่น สิ่งเหล่านี้จะเป็นไปได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำรงชีวิตด้วยวิถี แห่งความพอเพียง รู้จักใช้ชีวิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
 --------------------------------------------------------------------------------------------------
รมว.พาณิชย์ มั่นใจระบายข้าวรอบใหม่มีเงินเพียงพอ

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การคลังเพื่อกู้เงินไปดำเนินโครงการรับจำนำข้าวรอบใหม่ วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรี  (ครม.) ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าต้องใช้เงินเท่าไร เนื่องจากการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์มีปัญหาทำไม่ได้ตามแผน รวมทั้งยังมีผลพวงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้                "กระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถตอบได้ว่าจะระบายข้าวและมีเงินมาใช้จำนำข้าวรอบใหม่เท่าไรและเมื่อใดหรือจะใช้หนี้กระทรวงการคลังที่กู้ไปรับจำนำรอบแรก 2.65 แสนล้านบาทครบเมื่อไรทำให้กระทบกับการจำนำรอบใหม่ที่คาดว่าจะมีถึง 26 ล้านตัน และต้องใช้เงินทั้งโครงการที่ 4.05 แสนล้านบาท"                รายงานแจ้งอีกว่า กระ ทรวงการคลังได้ทำแผนการกู้เงินให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.การคลัง พิจารณาทางเลือกด้วยว่าหากต้องกู้เงินเพิ่มจากเดิม 1.5 แสนล้านบาท จะกระทบกับสัดส่วนหนี้สาธารณะอย่างไร โดยมีแผนกู้ตั้งแต่ 2-4 แสนล้านบาท ที่สำคัญการกู้จะทำให้กระทรวงการคลังไม่สามารถค้ำประกันที่สำคัญการกู้จะทำให้กระทรวงการคลังไม่สามารถค้ำประกันเงินกู้ให้รัฐวิสาหกิจอื่นได้                ส่วนนายบุญทรง เตริยา ภิรมย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ยังมั่นใจว่าการระบายข้าวรอบใหม่จะมีเงินเข้ามาเพียงพอสำหรับใช้ในโครงการรับจำนำรอบใหม่ หากไม่พอและกู้เพิ่มไม่ได้ก็คงต้องหยุดโครงการรับจำนำไปก่อน                ขณะเดียวกัน น.ส.สุภา ปิยจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ระบุว่า ต้องการให้รัฐบาลตั้งงบประมาณมาชำระความเสียหายที่เกิดจากการรับจำนำพืชผลทางการเกษตรตั้งแต่ปี 2547 ถึง 2553จำนวน 1.7 แสนล้านบาท ภายใน 3-4 ปี ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นยังไม่ได้รวมโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลนี้ในรอบแรก โดยหากรัฐบาลไม่เร่งชดเชยเงินจะทำให้ความเสียหายเพิ่มขึ้น และทำให้รัฐบาลชดเชยความเสียหายได้ยากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป